ReadyPlanet.com


การเป็นนักบินอวกาศเป็นอย่างไร มาดูกัน


 การเป็นนักบินอวกาศเป็นยังไง

NASA ต้องหาแนวทางที่คมคายสำหรับในการทำให้นักบินอวกาศมีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมของพระจันทร์ที่ไม่เป็นมิตรซึ่งจะฆ่าผู้ใดก็ได้ที่ไม่มีชุดวัสดุอุปกรณ์ที่สมควรในทันทีทันใด แต่ว่านอกเหนือจากนั้นนักวิทยาศาสตร์ได้ปรับปรุงเทคโนโลยีที่ทำให้นักบินอวกาศเขยื้อนได้ สิ่งนี้ทำให้พวกเขาสามารถตรวจสอบผิวพระจันทร์รวมทั้งงงงวยกับ“ ความไม่เป็นระเบียบร้างอันสวย” ของมัน Pussy888

อยู่รอดแล้วก็เจริญบนพระจันทร์

มีเหตุมีผลที่ดีที่พระจันทร์เป็นหินที่ไม่มีชีวิต สิ่งมีชีวิตอะไรก็แล้วแต่ที่พากเพียรจะเอาชีวิตรอดบนผิวพระจันทร์ต้องจัดการกับอุณหภูมิในช่วงเวลากลางวันที่สูงถึง 127 ° C รวมทั้งต่ำถึง -173 ° C ในช่วงกลางคืน พวกเขาจำต้องทำขึ้นเพื่อทนต่อรังสีอวกาศจากรังสีคอสมิกแล้วก็เปลวสุริยะที่ทอดดีเอ็นเอ รวมทั้งพวกเขาไม่อาจจะเป็นผู้หายใจหรือผู้กินน้ำได้อย่างไม่ต้องสงสัย น้ำน้อยที่อยู่ในนั้นถูกขังอยู่ในน้ำแข็งหรือหินแล้วก็ชั้นบรรยากาศบางๆนั้นไม่อาจจะระบายออกได้อย่างที่มันได้รับ

มนุษย์เด่นชัดมิได้ถูกทำขึ้นเพื่อพระจันทร์ แล้วนักบินอวกาศอะพอลโลรอดมาได้ยังไง? คำเดียว: ความฉลาด โมมองลดวงจันทร์ที่ลงหยุดของนักบินอวกาศอพอลโลบนพระจันทร์เป็นยานอวกาศที่จริงจริงลำแรก นี่เป็นเนื่องจากไม่ราวกับแต่ก่อนที่ดำเนินชีวิตการทำงานทั้งสิ้นในที่ที่ไม่มีอากาศของอวกาศ มันคุ้มครองนักบินอวกาศจากรังสีรวมทั้งอุกกาบาตขนาดเล็กด้วยฟอยล์ฉนวนปกป้องหลายชั้น แล้วก็มันมีตัวถังที่แข็งแรงซึ่งทำมาจากแท่งอลูมินัมแข็ง

ส่วนที่น่าประทับใจที่สุดของการออกแบบเป็นระบบควบคุมสภาพแวดล้อม ด้วยเซ็นเซอร์แล้วก็เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์เพียงแค่เล็กๆน้อยๆก็เลยปฏิบัติงานได้ราวกับเครื่องจักรที่สลับซับซ้อน ระบบนี้ถ่ายออกสิเจนแล้วก็น้ำจากถังนอกห้องโดยสาร แล้วหลังจากนั้นป้อนออกสิเจนเข้าไปในห้องโดยสารแล้วก็ยังเพิ่มแรงกดดันตัวถังจัดแจงอุณหภูมิแล้วก็หาน้ำให้กับนักบินอวกาศ เป็นไปตามเจตนารวมทั้งจุดมุ่งหมายทั้งปวงเส้นชีวิตของพวกเขาออกไปเรื่อย

นักบินอวกาศของอพอลโลบางทีอาจไม่เป็นอันตรายในโมมองลดวงจันทร์ แต่ว่าแน่ๆว่าพวกเขาป่วยไข้ ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกสำหรับปรุงอาหารหรือซักผ้าและก็การชี้แจงเหตุการณ์ห้องอาบน้ำอย่างสุภาพมีมารยาทนั้นเป็น "ฐานราก" ด้วยพื้นที่ใช้สอยเพียงแต่ 4.5 m มันก็แออัดมากมาย นักบินอวกาศไม่มีที่จะนั่ง แล้วก็แม้จำเป็นที่จะต้องนอนก็จำต้องโหนเปลผ่านห้องโดยสารหรือหามุมว่าง

สำเร็จให้การออกมาจากโมมองลดวงจันทร์บางทีอาจช่วยทุเลาได้ สำหรับในการทำแบบนี้พวกเขาจำต้องระบายอากาศทั้งสิ้นออกมาจากห้องโดยสารหลังจากนั้นคลานเท้าก่อนผ่านฟักรวมทั้งลงบันไดกระทั่งท้ายที่สุดพวกเขาก็สัมผัสกับดินพระจันทร์

เมื่อพวกเขาระบายอากาศอย่างเดียวที่ช่วยพวกเขาจากความตายได้ก็คือหน่วยเคลื่อนนอกยานพาหนะซึ่งรู้จักกันดีในชื่อชุดอวกาศ ชุดกลุ่มนี้ไม่เพียงแค่ แต่ว่าจำต้องรักษาชีวิตของนักบินอวกาศ แต่ว่ายังจำเป็นต้องให้ความคล่องตัวในระดับที่พอดีด้วย

การออกแบบชุดอวกาศมีหลายชั้น นักบินอวกาศใส่เสื้อชั้นในไนลอนระบายความร้อนด้วยน้ำ 12 ชั้นที่ทำมาจากผ้าฉาบเทฟลอนสีขาวไม่ติดไฟแล้วก็อุปกรณ์ระดับสูงอื่นๆที่รับแรงกดแล้วก็ปกป้องความร้อนรวมทั้งการครูดขีด การเคลื่อนไหวมีให้โดยข้อต่อยางที่สลับซับซ้อนที่ไหล่ศอกข้อมือบั้นท้ายข้อเท้าแล้วก็เข่า และก็ตัวเชื่อมโลหะช่วยทำให้นักบินอวกาศสามารถติดถุงมือแล้วก็หมวกกันน็อค Fishbowl ที่ปิดผนึกได้ยิ่งไปกว่านี้พวกเขายังใส่รองเท้าหุ้มส้นคุ้มครองปกป้องแล้วก็กระเป๋าเป้ประคองชีวิตแบบนำพาที่มีออกสิเจนวัสดุอุปกรณ์กำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก็น้ำหล่อเย็น

ถ้าหากพวกมันอยู่บนโลกนักบินอวกาศเกือบจะไม่สามารถที่จะยืนขึ้นได้โดยทั้งยังชุดมีมวลราวๆ 80 กก. แต่ว่าจำต้องขอบคุณมากแรงโน้มถ่วงที่อ่อนแอของพระจันทร์ทำให้ชุดสูทมีน้ำหนักไม่เกิน 14 กก.บนผิวพระจันทร์ โดยเหตุนั้นแม้ว่าจะมีรูปลักษณ์ที่มองเป็นไม้ แต่ว่าชุดอวกาศของอพอลโลก็ค่อยและก็ยืดหยุ่นพอเพียงสำหรับในการเดินบนพระจันทร์

ตามความเป็นจริงนักบินอวกาศสามารถเดินบนพระจันทร์ได้ทีละหลายชั่วโมง ขณะที่อยู่ภายนอกพวกเขาปฏิบัติงานหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อทดลองความยืดหยุ่นของชุดอวกาศ พวกเขาเก็บเนื้อเก็บตัวอย่างดินแล้วก็หินพระจันทร์ทดสอบการใช้งานปักธงตรวจสอบแล้วก็ถ่ายรูปผิว ในระหว่างภารกิจ Apollo 14 ผู้บังคับบัญชา Alan Shepard ซึ่งมีชื่อเสียงกันดีว่าเป็นคนประเทศอเมริกาคนแรกที่เดินทางสู่อวกาศในปีพ. ศาสตราจารย์ 2504 แม้ว่าจะมีเวลาเล่นกอล์ฟบางส่วน

หน้าจอยทางจันทรคติ

ปัญหาใหญ่เป็นทางเท้าบนดวงจันทร์พวกนี้มีเท่านั้นเอง: เดิน การสำรวจที่ จำกัด นี้เป็นระยะทางสั้นๆบริเวณจุดลงหยุด สิ่งที่ชัดแจ้งเร็วนี้ๆก็คือนักบินอวกาศกลุ่มนี้อยากการขนส่ง สามภารกิจท้ายที่สุดที่ทำให้มนุษย์ลงหยุดบนพระจันทร์ - อพอลโล 15, 16 รวมทั้ง 17 - ได้มาในลักษณะของยาน Lunar Roving รถยนต์คันนี้มีชื่อเสียงกันดีในชื่อรถยนต์บั๊กกี้พระจันทร์

Moon buggies เป็นรถยนต์ขับสี่ล้อที่ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ขนาดเท่า Volkswagen Beetle พวกเขาใช้หน้าจอยสติ๊กรูปตัว T แทนพวงดอกไม้เพื่อไปไหนมาไหน ความเร็วสูงสุดที่ออกจะช้าที่ 13 กิโลเมตร / ชั่วโมง มิได้หยุดการเดินทางไกลถึง 8 กิโลจากจุดลงหยุดและก็ครอบคลุมระยะทางรวม 88 กิโลในสามภารกิจ นักบินอวกาศใช้ยานตรวจพระจันทร์เก็บเนื้อเก็บตัวอย่างหินจากพื้นที่กว้างกว่าที่เคยทำเป็น สิ่งนี้ช่วยทำให้นักวิทยาศาสตร์รู้ๆกันอยู่ขึ้นเกี่ยวกับผิวของพระจันทร์



ผู้ตั้งกระทู้ manat :: วันที่ลงประกาศ 2020-12-24 13:25:59


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.